ผ้าปาเต๊ะลายเมฆ

ผ้าปาเต๊ะลายเมฆ  batik Megamendung

mega mendung ลายประจำจากเมืองจิเรบอน เมืองท่าทางชายฝั่งทางเหนือของเกาะชวา อินโดนีเซีย 

เมฆเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ เพราะเมฆให้น้ำ และน้ำสร้างชีวิต

สีสันของผ้าลายเมฆสะท้อนความมีชีวิตชีวา ความเชื่อที่ถ่ายทอดผ่านลวดลายบนผ้าจากช่างเขียนถึงผู้สวมใส่ 

ผ้าลายเมฆนั้น มีความหมายมากมายครับ เพราะผสมผสานจากวัฒนธรรมความเชื่ออย่างน้อย 3  แห่ง คือ จีน อิสลาม และชวาเอง ซึ่งในปัจจุบัน ลายเมฆ เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติเป็นอย่างดี

ลายผ้า Megamendung เป็นลายที่สะท้อนปรัชญาในการดำรงชีวิต เพราะหัวใจของผู้สวมใส่จะสงบและเยือกเย็นเหมือนก้อนเมฆทีมารวมตัวกันท่ามกลางอากาศที่ร้อน

ในลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นหนึ่งในที่มาของลายเมฆตามวัฒนธรรมจีนนั้น เปรียบเมฆเป็นสวรรค์และดอกไม้ของโลกอันกว้างใหญ่

ที่จิเรบอน ลายเมฆนั้นมีความหมายต่างกันตามแนวที่เขียน คือเมฆแนวนอน ซึ่งมักเห็นได้มากกว่า และเมฆแนวตั้ง สำหรับบนผ้าบางผืน ช่างเขียนผ้าผสมทั้งแนวนอน-แนวตั้งอยู่ด้วยกัน

เมฆแนวนอน หมายถึง การวางตัวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพระหว่างเพื่อนมนุษย์ ผู้ส่วมใส่ผ้าเลยเมฆ ควรควบคุมความโกรธ มีทัศนคติที่ดี และการควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เหมือนเมฆที่ประกอบไปด้วยน้ำและความเย็น ส่วนลายเมฆแนวตั้ง นั้น หมายถึง เมฆที่เชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

การเขียนไล่สีเมฆ จากสีอ่อนไปหาสีเข้มนั้นเป็นการสื่อถึงการเคลื่อนที่ของเมฆที่รวมตัวกันจนเป็นสีเข้ม แล้วตกลงมาเป็นน้ำฝน ซึ่งปัจจบัน มีผ้าลายเมฆจำนวนมากที่ออกแบบมาให้เรียบขึ้น หรืออาจเพิ่มรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ผีเสื้อบนเมฆ และ นกต่าง ๆ บนเมฆ 

แต่ผ้าลายเมฆทุกผืนจากจิเรบอนยังคงเก็บ ลักษณะเด่นของเมฆจิเรบอน คือ เมฆทุกก้อน แม้ขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน แต่จะเชื่อมถึงกัน ไม่แยกจากกัน และลักษณะเด่นอีกอย่าง คือ เมฆจิเรบอนจะ ไม่เป็นก้อนกลมตามวัฒนธรรมที่เข้ามา แต่จะมีรูปทรงสามเหลี่ยม สีเหลียม หรือ เป็นแนวยาวเหมือนเทป

ลายเมฆ จึงสื่อถึงความกว้างใหญ่ ท้องฟ้า พระเจ้า น้ำ ชีวิต และความหมายเชิงนามธรรมที่เป็นมงคล